วิธีเลือกซื้อกองทุนอย่างไร ออมทรัพย์ให้สบายวัยเกษียณ
“กองทุนรวม” คือกองทุนที่มีวัตถุประสงค์อย่างชัดเจนในการลงทุนที่หวังผลกำไรที่งอกเงยและงอกงาม เปรียบเสมือนเป็นการปลูกต้นไม้ที่รอวันเจริญเติบโต ผลิดอก ออกผล และรอวันเก็บเกี่ยวกำไรมากมายให้กับตัวคุณ นี่คือ นิยามของกองทุนรวมอย่างแท้จริง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการที่จะเก็บเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ จึงเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ค่อนข้างมีความน่าสนใจในการลงทุนอย่างดีเยี่ยม และมีความน่าสนใจในความหลากหลายของการลงทุน
สำหรับใครที่กำลังมองหากองทุนที่ต้องการลงทุน วันนี้เราได้ออกมาเปิดเผยถึง “TIPS ในการเลือกซื้อกองทุน” ที่เรียกว่ามีความเหมาะสมและความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งกับการมองหาตัวเลือกที่ดี เหนือสิ่งอื่นใดเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจหลักการของการเลือกให้ดีก่อนและมีแนวทางและวิธีคิดดังต่อไปนี้
1. เลือกกองทุนที่ใช่สำหรับเรา
มีกองทุนมากมายให้เลือกในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นควรที่จะเลือกและไตร่ตรองและคิดให้ดีกับการเลือกกองทุนสักกองนึง ควรจะพิจารณาจากนโยบายทั้งทางด้านการลงทุนของกองทุนแล้วจะต้องรู้ด้วยว่ากองทุนที่เราสนใจนั้น เป็นกองทุนประเภทไหนกันแน่ และมีความยอดเยี่ยมมากน้อยแค่ไหนหรือรวมไปถึงองค์ประกอบโดยรวมมีความน่าสนใจมากไหม
นำเงินที่ลงทุนในด้านทรัพย์สินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทั้งหุ้นขนาดใหญ่ หรือ ขนาดเล็ก หรือหุ้นต่างๆ ที่กำลังเติบโตมีสัดส่วนเท่าไหร่ และมีความเสี่ยงต่อกองทุนในรูปแบบเหล่านั้นมีอะไรบ้าง และมีอัตราการปันผลหรือไม่ และควรที่จะซื้อขั้นต่ำเท่าไหร่อายุกองทุนผ่านร้อน ผ่านหนาว มามากแค่ไหน ควรที่จะศึกษาให้ละเอียดและเลือกว่าเหมาะกับเป้าหมายของคุณหรือสไตล์การลงทุนของคุณหรือไม่
2. ต้องมีผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ
ถึงแม้ว่าจะเจอกองทุนที่ “ใช่” สำหรับคุณแล้วก็ตาม แต่ถ้าหากไม่มีผลตอบแทนที่เหมาะสมสม่ำเสมอแล้ว เราก็ไม่ได้ผลประโยชน์อะไรนั่นเอง จึงทำให้สิ่งเหล่านี้ควรที่จะพิจารณาเป็นลำดับแรกเลยก็คือ การตรวจสอบย้อนหลังไปซักประมาณ 6 เดือน 1 ปีหรือ 3 ปี เพื่อดูวันเวลาของการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวและดูความสม่ำเสมอของการดำเนินงานหรือกิจการในระยะสั้น และระยะยาวพร้อมกับการเปรียบเทียบดัชนีชี้วัดให้ชัดเจนว่าเป็นอย่างไรกับนโยบายในการลงทุนแบบเดียวกัน หรือรวมไปถึงการเลือกกองทุนที่มีผลการดำเนินงานที่มีอัตราการตอบแทนที่ดีมีความสม่ำเสมออีกด้วย
ปล.เคล็ดลับการดูง่ายๆว่า กองทุนใดมีผลงานอย่างสม่ำเสมอ หรือติดอยู่ในอันดับต้นๆในหลายช่วงเวลานั้น ก็ควรที่จะดูจาก 6 เดือน 1 ปีหรือ 3 ปีย้อนหลัง ซึ่งแปลว่ากองทุนนั้นน่าจะมีโอกาสและศักยภาพในการทำงานได้ดีต่อไปในอนาคตอีกด้วย
3. เลือกค่าธรรมเนียมของกองทุนต่ำ
สำหรับค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหรือค่าใช้จ่ายของกองทุนในเรื่องของการเรียกเก็บก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ต่อการเช็คให้ดีเพราะหักค่าธรรมเนียมสูงจนเกินไปก็จะส่งผลให้ผลตอบแทนที่เราได้ลดลงด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นเราจึงควรที่จะเลือกกองทุนที่มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำและรวมไปถึงเมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนอื่นๆ แล้วจะมีนโยบายของกองทุนที่มีความใกล้คล้ายกัน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมมากจนเกินความจำเป็น
จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการเลือกค่าธรรมเนียมนั้นเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นองค์ประกอบหลักของการเลือกกองทุน เพราะอาจจะส่งผลต่อกำไรที่ได้จากการลงทุนในแต่ละครั้งด้วยเช่นเดียวกัน
โดยทั้ง 3 หัวข้อที่กล่าวมาในข้างต้นนั้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่เป็นสูตรสำเร็จที่ค่อนข้างน่าประทับใจ และสามารถนำเอาไปใช้ได้ แต่อย่างไรก็ตามสามารถที่จะนำเอาทฤษฎีหรือความสำคัญเหล่านี้ไปปฏิบัติ และสามารถที่จะปรับเปลี่ยนตามแผนงานของคุณ หรือตามความถนัดของคุณได้เลย แต่อย่างไรก็ตามการเลือกที่จะลงทุนกับกองทุนรวม หรือกองทุนอื่นๆนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนที่จะลงมือ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผลกำไรและเงินที่จะได้รับ
สรุปได้ว่า “กองทุน” ในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบ หลากหลายเจ้า ตามที่คุณต้องการหรือตามจุดประสงค์โดยรวม เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนแล้วจะเป็นอีกหนึ่งความพร้อมเรื่องการลงทุน เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง เพียงแต่เราสามารถใช้ความรู้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงให้เกิดประโยชน์