ตุ่มบนหนังศีรษะหริอผิวหนัง ถ้าไม่ใส่ใจอาจเกิดเนื้อร้ายได้

ตุ่มคันบนหนังศรีษะ มีทั้งรักษาหายและรักษาไม่หายขาด

ปัญหาหนังศีรษะคันหรือมีตุ่มที่หนังศรีษะ เป็นอีกสิ่งที่มักจะก่อให้เกิดความรำคาญและนำมาซึ่งปัญหาอย่างต่อเนื่อง ปัญหาที่มักพบได้บ่อยก็คือ อาการคันหรือตุ่มบนหนังศีรษะ อาการเหล่านี้เกิดขึ้นจากผิวบริเวณหนังศรีษะแห้ง ไม่ว่าจะเป็นตุ่มเม็ดเล็ก ตุ่มเม็ดใหญ่ จะมากหรือน้อย สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นจากการแพ้อาหารหรือความผิดปกติทางร่างกายบางอย่าง อาจส่งผลให้เกิดรังแค หรืออาจจะส่งผลกระทบอีกหลายประการ ที่สามารถพบเห็นได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นภาวะอาการผมร่วง หรือหนังศีรษะแห้งเป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าหลายท่านคงเคยประสบปัญหาต่างๆเหล่านี้กันบ้างแล้ว อาจมีลักษณะที่แตกต่างกันไปบ้าง

แต่ปัญหาหนังศรีษะเหล่านี้เกิดมาจากอะไรหรือเกิดขึ้นได้อย่างไร ตามเรามาทำความรู้จักกับปัญหาตุ่มบนหนังศีรษะและสาเหตุการเกิดอาการที่อาจนำไปสู่โรคผิวหนังเรื้อรังหากไม่ดูแลรักษา ร้ายที่สุดปัญหาจากอาการตุ่มคันบนหนังศรีษะอาจนำไปสู่การเกิดเนื้อร้ายได้ รวมไปถึงสาเหตุของอาการคันบนศีรษะของคนเรา ที่มีผลอย่างไรต่อร่างกายได้บ้าง?

สาเหตุหลัก การเกิดอาการคันและตุ่มบนศีรษะ

สำหรับสาเหตุหลักจะเกิดจากการเป็นโรคผิวหนังที่เกิดขึ้นบริเวณหนังศรีษะ ที่ทำให้เกิดสภาวะหนังศีรษะคัน มักจะพบได้บ่อยมากเลยก็คือ การเกิดรังแคหรือผิวหนังบนศีรษะเกิดการอักเสบของต่อมไขมัน และอาจจะก่อให้เกิดโรคสะเก็ดเงินสะเก็ดทองหรือโรคกลากเกลื้อน เป็นต้น

โรคที่พบได้บ่อยจากอาการคันหนังศรีษะ

โรคที่ทำให้เกิดอาการคันหนังศรีษะ มีมากมายหลายชนิด แต่โรคที่ทำให้เกิดอาการคันหนังศรีษะที่พบบ่อยมีดังนี้

1. รังแคและโรคผิวหนังอักเสบ

รังแคเป็นอันดับต้นๆ ของสาเหตุและสภาวะของการเกิดอาการคันหนังศีรษะ การเกิดรังแคเป็นอาการของโรคหนังศรีษะอักเสบที่เกิดจากผิวหนังแห้ง ขาดการบำรุงดูแลหรืออาจเกิดจากการแพ้สารเคมีจากแชมพูหรือครีมนวดผมที่เราใช้อยู่เป็นประจำ หรือเพิ่งเริ่มทดลองใช้ หากเกิดจากสิ่งเหล่านี้เราจะสามารถหลีกเลี่ยงก็จะทำให้อาการคันและรังแคบนหนังศรีษะนั้นจะหายไปหลังจากเราเลิกใช้ 2-3 วันและจะดีขึ้นจนหายไปใน 1 สัปดาห์ แต่หากมีอาการแพ้มากอาจต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูมากกว่า 1 อาทิตย์ ฉะนั้นเมื่อเราเริ่มทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือบำรุงรักษาผม ควรที่จะสังเกตว่ามีอาการแพ้หรือไม่ในระยะเริ่มต้นทดลองใช้

2. โรคสะเก็ดเงิน

โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่ง สาเหตุของการเกิดโรคสะเก็ดเงินยังไม่ทราบแน่ชัด พบว่าพันธุกรรมมีส่วนแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะผู้ป่วยบางรายก็ไม่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคสะเก็ดเงินเลย ลักษณะของโรคสะเก็ดเงิน คือ มีผื่นสีแดงค่อนข้างหนาและมีขุยสีขาว คล้ายรังแคบริเวณผิวแต่มักจะรุนแรงกว่าอาการของรังแค โดยมีสะเก็ดออกมามากกว่า และกระจายอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยร้อยละ 80 ของผู้ป่วย ผื่นสะเก็ดเงินมักเริ่มต้นที่ศีรษะก่อนจะกระจายไปยังส่วนอื่น ตำแหน่งที่พบอาการได้บ่อยคือบริเวณศอกและเข่า หรือตำแหน่งที่มีการเกาหรือเสียดสี โดยผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงินจะมีอาการคันร่วมด้วย โดยโรคสะเก็ดเงินไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่มีการติดเชื้อและไม่แพร่เชื้อ แต่ที่สำคัญคือ โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด

3. โรคกลากเกลื้อนที่หนังศีรษะ

สำหรับโรคกลากเกลื้อนบนผิวหนังนั้นมักจะเกิดได้ง่ายๆ มีสาเหตุการเกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะกลากที่เกิดขึ้นบนหนังศีรษะนั้น มักจะเกิดขึ้นในกลุ่มเด็ก แต่อาจจะพบในกลุ่มผู้ใหญ่ไม่มาก สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการดูแลศีรษะที่ไม่มากพอ หรือขึ้นอยู่กับความชื้นหรือสาเหตุจากการได้รับปฏิกิริยาต่อผู้ป่วยที่ติดเชื้อรา อาจจะจำแนกได้จากการอักเสบ หรือรวมไปถึงการเกิดขุยบนหนังศีรษะที่อาจจะพบได้จากการย้อมผม หรือผมร่วงเป็นหย่อมๆ อีกด้วย

4. ผื่นแพ้

ผื่นแพ้สัมผัสที่หนังศีรษะนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการหนังศีรษะคัน เป็นผื่นแดง เป็นตุ่มเม็ดใส เป็นขุย สามารถพบได้ทั่วไป ส่วนใหญ่จะหายไปเองภายใน 1-2 วัน อาการแพ้ที่มีผื่นแพ้ขึ้นบนศรีษะอาจเป็นผลมาจากที่ผิวหนังบริเวณหนังศีรษะสัมผัสกับสิ่งสกปรกหรือสารเคมี การวินิจฉัยผื่นแพ้สัมผัสที่หนังศีรษะนั้นอาศัยประวัติสัมผัสสารที่อาจจะก่อให้เกิดการแพ้ ตรวจร่างกายพบผื่นแดงลอกเป็นขุย ในรายที่เป็นมากอาจมีบวมหรือน้ำเหลืองร่วมด้วย โดยที่อาการคันจะเป็นอาการเด่น โดยสารก่อการแพ้ที่พบเป็นสาเหตุของผื่นแพ้สัมผัสที่หนังศีรษะได้บ่อย ได้แก่ สีย้อมผม น้ำยาดัดผม น้ำหอม และสารกันเสีย

5. ตุ่มบนหนังศีรษะ

สำหรับอาการตุ่มบนหนังศีรษะนั้น มักจะมีน้ำเหลืองปนมาด้วย อาจจะก่อให้เกิดรูขุมขนอักเสบหากมีการติดเชื้อจากแบคทีเรียร่วมด้วย ตุ่มบนหนังศีรษะที่เป็นกลุ่มของการติดเชื้อแบคทีเรียที่ค่อนข้างมีความรุนแรง อาจจะเป็นตุ่มหนองที่มีขนาดใหญ่และสาเหตุอื่นๆ ด้วยเช่นเดียวกันกับสะเก็ดเงินบนหนังศีรษะ และผิวหนังอักเสบที่มาจากต่อมไขมันบนชั้นผิวหนังเป็นต้น

ซึ่งจากการวินิจฉัยอย่างแน่ชัดแล้วนั้น ควรที่จะพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจรอยโรคของจริง เพื่อวินิจฉัยและหาแนวทางการรักษา ในเบื้องต้นแนวทางรักษาจากสถานพยาบาลจะเริ่มต้นจากการซักประวัติ สังเกตอาการแพ้ คล้ายกับสิ่งที่เราเริ่มทดลองใช้สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับผิวหนังหรือหนังศรีษะ โดยในเบื้องต้นจะให้งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งเริ่มใช้นั้น และใช้สเตียรอยด์ในการทาเฉพาะที่และกรณีที่มีการอักเสบเท่านั้น หากมีการติดเชื้อร่วมด้วยควรที่จะใช้ยาที่มีส่วนผสมของสารฆ่าเชื้อ โดยใช้ภายใต้การดูแลทางการแพทย์อย่างเข้มงวด แต่หากเป็นตุ่มเรื้อรังไม่ยุบไปเลย หรือตุ่มนี้อาจจะมีการบวมแดงมากขึ้น หรือมีมากยิ่งขึ้นควรที่จะไปพบแพทย์

คำแนะนำเบื้องต้นสำหรับผู้มีอาการคันหนังศรีษะ

• ห้ามไม่ให้แกะเกาบริเวณที่เป็นโดยเด็ดขาด
• สระผมด้วยยาสระผมที่ไม่มีกลิ่นหอมรุนแรงหรือควรใช้ยาสระผมเด็กทุกวัน
• รักษาความสะอาด ดูแลรักษาไม่ให้ผมมีเหงื่อ และความอับชื้นมากจนเกินไป

ฉะนั้นการดูแลศีรษะของตนเอง เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีความจำเป็นในการดูแลสุขภาพและร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการดูแลร่างกายส่วนอื่นๆ