7 ไอเท็มช่วยบำรุงผิวหน้าวัยแซ่บ ไม่ให้เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป
สำหรับวัย Silver Age เป็นการเริ่มต้นของกลุ่มผู้สูงวัยแต่สำหรับ FUNFAB Plus แล้ว Silver Age คือวัยแซ่บกลุ่มผู้สูงวัย เราจะเรียกสั้นๆว่า วัยแซ่บก็แล้วกัน “วัยแซ่บ” ถือเป็นอีกกลุ่มวัยที่ต้องให้ความสำคัญเรื่องผิวพรรณ ต้องดูแลเอาใจใส่ให้มากขึ้นกว่าเดิม เหตุจากร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงไปตามอายุที่มากขึ้น ความชราของผิว หรือเรียกให้ดูดี คือ ผิวสูงวัย
ริ้วรอยที่เกิดขึ้นกับใบหน้าและผิวหนังส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยภายในร่างกายและปัจจัยภายนอกร่วมกัน โดยปัจจัยภายในมาจากการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว และเนื้อเยื่อที่เป็นไปตามวัย (แซ่บ) ส่วนปัจจัยภายนอกมีมากมาย ทั้งจากมลพิษรอบตัว จากสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการได้รับรังสียูวีจากแสงแดดที่ทำให้ผิวแห้งและบางลง ทำให้เกิดริ้วรอยจนทำให้ผิวเหี่ยวย่น
เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีการดูแล และวิธีบำรุงผิวพรรณสาวแซ่บให้ดูดีขึ้นด้วย 7 ไอเท็มที่ปรับสภาพผิวด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวของแต่ละไอเท็ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับผิวเหี่ยวย่นให้เด้งเต่งตึง ปรับผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใส ขาวเนียนเหมือนใส่ฟิลเตอร์ฟรุ้งฟริ้ง
เคล็ดลับง่ายๆ ที่สามารถทำได้ทุกวันเป็นประจำวันมีดังนี้
1. บำรุงผิวหน้าด้วย Double Cleansing
ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่โด่งดังเป็นอย่างมากกับการล้างหน้าแบบ Double Cleansing ซึ่งปกติแล้วคนส่วนใหญ่จะใช้โฟมล้างหน้าในการทำความสะอาดผิวหน้าแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าเท่านั้นเป็นอันเสร็จสิ้น แต่สำหรับใครที่ใช้วิธีนี้จะล้างหน้า 2 รอบ โดยการใช้เคลนซิ่งแบบออยล์ก่อนและตามด้วยเคลนซิ่งแบบโฟมอีกครั้งหนึ่ง
การล้างหน้าแบบนี้จะช่วยขจัดคราบเมคอัพได้อย่างหมดจดและช่วยล้างคราบเหงื่อสิ่งสกปรกต่างๆ และคราบมันออกจากผิว ช่วยทำความสะอาดผิวได้เป็นอย่างดี
2. บำรุงผิวหน้าด้วย Toner
หลังจากที่เราล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว มีผิวใสแล้ว อย่าเพิ่งใจร้อนรีบทาสกินแคร์เป็นอันขาดเพราะขั้นตอนต่อไปนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ การล้างหน้า เช็ด และตบด้วยโทนเนอร์เพื่อปรับสมดุลของ pH และยังช่วยเตรียมผิวให้พร้อมกับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
ผลิตภัณฑ์โทนเนอร์มักจะผสมสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยต่อต้านริ้วรอยได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดสิว ควรใช้สำลีแผ่นและเช็ดผิวเบาๆ จะช่วยบำรุงผิวและตอบโจทย์สำหรับวัย Silver Age อีกด้วย
3. บำรุงผิวหน้าด้วย Essence
เป็นอีกหนึ่งวิธีในการทาสกินแคร์แบบบางเบาหลายๆ รอบเพื่อเพิ่ม layer ของผิวและยังเป็นการช่วยลดการอุดตันของผิวได้เป็นอย่างดี การใช้สกินแคร์แต่ละตัวในการทำหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไปอย่างเต็มที่ และเต็มประสิทธิภาพที่สุด โดยเฉพาะหลังจากการใช้โทนเนอร์เติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เพิ่มความจำเป็นอีกระดับหนึ่ง คือการตบ Essence เข้าไป
4. บำรุงผิวหน้าด้วย Emulsion
สำหรับ Emulsion จะช่วยเน้นความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกขั้นตอนหนึ่ง ด้วยเนื้อสัมผัสแบบ Essence ที่ไม่หนาเท่า moisturizer ส่วนมากจะผสมกับสารสกัดจากธรรมชาติที่เน้นช่วยเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานมากขึ้น และรู้สึกถึงความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี ช่วยบำรุงให้ผิวดูอิ่มตัวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
5. บำรุงผิวหน้าด้วย Sheet Mask
อีกหนึ่งเคล็ดลับสำหรับการดูแลผิว Sheet Mask เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบยอดฮิตในหมู่สาวๆ ทั่วโลกเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังหาซื้อได้ง่ายราคาไม่แพง แถมยังใช้งานได้ง่ายอีกด้วย ควรมาสก์หน้าทิ้งไว้ 15 ถึง 20 นาทีเท่านั้น ห้ามมาสก์หน้าข้ามคืน หรือเกินเวลาเด็ดขาด เนื่องจากเจ้าแผ่นมาสก์นี้จะทำให้ผิวแห้งและดึงความชุ่มชื้นออกจากผิวไปจนหมด
6. บำรุงผิวรอบดวงตาด้วย Eye Cream
Eye Cream เป็นอีกหนึ่งวิธีในการช่วยบำรุงบริเวณรอบดวงตาได้เป็นอย่างดี และช่วยลดอาการหมองคล้ำใต้ตาได้อย่างน่าสนใจ อีกทั้งยังช่วยลดรอยเหี่ยวย่น และรอยตีนกาได้เป็นอย่างดี หากใช้เป็นประจำก็จะช่วยส่งเสริมด้านนี้ได้อย่างง่ายดายที่สุด
7. บำรุงผิวหน้าด้วย Sleeping Masks
ในช่วงเวลาที่เรานอนหลับอยู่นั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับผิวหน้าได้พักผ่อนและช่วยซ่อมแซมฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอ ที่อาจจะโดนทำร้ายมาตลอดทั้งวันอีกด้วย นี่จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีในการซ่อมแซมและดูแลผิวเป็นอย่างดี ด้วยการทา Sleeping Masks ปิดท้ายนั่นเอง ซึ่งมีส่วนผสมของสารสกัดที่ดีต่อผิวหลายอย่างเลยทีเดียว
แถมด้วย moisturizer ที่จะช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ถือเป็นอีกไอเท็มหนึ่งที่ช่วยกักเก็บ ความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดีตลอดทั้งคืน พร้อมทั้งทำหน้าที่ในการฟื้นฟูผิวหน้าในขณะที่เรานอนหลับได้เป็นอย่างดี